ความดันโลหิตต่ำ (Hypotension, Low blood pressure)
ความดันโลหิตประกอบด้วยตัวเลข 2 ค่า มีหน่วยเป็น มิลลิเมตรปรอท (mmHg)
- ตัวบน (systolic) คือความดันในหลอดเลือดแดงขณะที่หัวใจบีบตัวส่งเลือดออกไป ทำให้ผนังหลอดเลือดโป่งออก ซึ่งเราสัมผัสได้เมื่อจับชีพจร
- ตัวล่าง (diastolic) คือความดันพื้นฐานในหลอดเลือดแดงขณะหัวใจคลายตัวพัก
ความดันที่เหมาะสมที่สุดของผู้ใหญ่คือ 90/60 ถึง 120/80 mmHg หรือความดันเฉลี่ยอยู่ในช่วง 70-100 mmHg
ความดันเฉลี่ย (mean arterial pressure, MAP) = ความดันค่าล่าง + ⅓ (ความดันค่าบน - ความดันค่าล่าง)
ความดันโลหิตต่ำ ทางการแพทย์หมายถึง
- ความดันที่ต่ำกว่า 90/60 mmHg หรือ MAP < 70 mmHg สำหรับผู้ที่อายุ ≥ 10 ปี
- ความดันค่าบน < 70 + (อายุเป็นปี x 2) mmHg สำหรับเด็กต่ำกว่า 10 ขวบ
- ความดันค่าบนลดลง > 20 mmHg หรือ ความดันค่าล่างลดลง > 10 mmHg จากค่าเดิมของคนนั้น อย่างฉับพลันจนเกิดอาการ
ความดันที่ต่ำกว่า 60/40 mmgHg หรือ MAP < 60 mmHg จะส่งผลต่ออวัยวะสำคัญ เช่น สมอง ไต หัวใจ ได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่พอ ต้องรีบรักษา ส่วนความดันต่ำระหว่าง 70/50-90/60 และไม่มีอาการ ร้อยละ 90 ไม่มีอันตราย หากแพทย์ตรวจร่างกายไม่พบความผิดปกติจะไม่รักษา
อาการของความดันโลหิตต่ำ
ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำเป็นปกติมักไม่แสดงอาการใด ๆ เว้นแต่ความดันจะลดลงอย่างรวดเร็ว เช่น ระหว่างท้องเสีย ยืนกลางแดดนาน แพ้ยา หรือเกิดภาวะกะทันหันอื่น ๆ ส่วนคนที่ความดันปกติหรือค่อนข้างสูง เมื่อมีเหตุที่ทำให้ความดันตกลงอย่างรวดเร็ว เช่น เสียเลือด ได้รับยาลดความดัน หรือหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ก็สามารถมีอาการได้แม้ค่าความดันยังไม่ต่ำกว่า 90/60 mmHg
อาการที่อาจพบ ได้แก่
- วิงเวียน หน้ามืด เป็นลม
- ตาลาย/ตาพร่า
- รู้สึกโคลงเคลงเวลาเดิน
- คลื่นไส้ อาจอาเจียน
- ไม่มีสมาธิ
- อ่อนเพลีย อยากนอน
- มือเท้าเย็น
- หน้าซีด ตัวซีด
- ใจเต้นเร็ว
- หายใจเร็ว
- กระหายน้ำ
- อาจมีเหงื่อออก แน่นอก ไข้สูง หน้าบวมหรือมีผื่น (หากเป็นปฏิกิริยาแพ้)
- ซึมลง หมดสติ
สาเหตุของความดันโลหิตต่ำ
ความดันโลหิตต่ำไม่ใช่โรค แต่เป็นสัญญาณของภาวะหรือโรคบางอย่าง ซึ่งมักกลับสู่ปกติได้เมื่อแก้ไขสาเหตุนั้นแล้ว สาเหตุที่พบได้ เช่น
- นอนพักหรือนอนติดเตียงเป็นเวลานาน
- ตั้งครรภ์ช่วง 6 เดือนแรก
- ร่างกายขาดน้ำ หรือเสียเลือด
- ผลจากยา เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดัน ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ ยารักษาพาร์กินสัน ยาต้านซึมเศร้า ยารักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (เสี่ยงมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับยากล่อมประสาทหรือแอลกอฮอล์)
- โรคหัวใจ: หัวใจเต้นช้า/เร็วผิดจังหวะ ลิ้นหัวใจตีบ/รั่ว กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด น้ำในเยื่อหุ้มหัวใจมาก หัวใจล้มเหลว
- โรคปอด เช่น ความดันเลือดที่ปอดสูง (Pulmonary hypertension) หรือเส้นเลือดปอดอุดตัน (Pulmonary embolism)
- น้ำตาลในเลือดต่ำ
- ติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis)
- แพ้ยา แพ้พิษสัตว์ แบบ anaphylaxis
- โลหิตจาง
- ต่อมหมวกไตทำงานลดลง (Adrenal insufficiency)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism)
- ต่อมพาราไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypoparathyroidism)
- ความบกพร่องของระบบประสาทอัตโนมัติที่ควบคุมความดันโลหิตเวลาลุกขึ้นหรือนั่ง (Orthostatic hypotension) โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
- ยืนหรือนั่งพับเพียบนาน ๆ
- หลังรับประทานอาหารมื้อใหญ่
- กลัว/ตกใจ/เสียใจมาก
- หยุดพักทันทีหลังออกกำลังกายหนัก
- อยู่ในที่แออัดหรือร้อนอบอ้าว
- อาบน้ำร้อนจัด
แนวทางการตรวจวินิจฉัย
เมื่อวัดพบว่าความดันต่ำ ขั้นแรกควรพิจารณาว่ามี สาเหตุที่แก้ไขได้เอง หรือไม่ เช่น ใช้ยาบางชนิด หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้ความดันลด เมื่อแก้แล้วความดันกลับมาปกติ ก็ไม่มีอันตราย
หากตัดสาเหตุที่เป็นไปได้ทั้งหมดแล้วยังพบความดันต่ำ ให้สังเกตว่ามีอาการร่วมด้วยหรือไม่ หากไม่มี และอายุน้อยกว่า 50 ปี ยังไม่จำเป็นต้องรักษา เพียงระวังปัจจัยที่จะทำให้ความดันลดลง เช่น ขาดน้ำ อาเจียน ท้องเสีย หรืออยู่กลางอากาศร้อน
หากความดันต่ำร่วมกับมีอาการ ควรพบแพทย์เพื่อประเมิน แพทย์อาจตรวจร่างกาย เจาะเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือเอกซเรย์เพื่อหาสาเหตุ
แนวทางการรักษา
การรักษาขึ้นอยู่กับว่ามีอาการหรือไม่ หากไม่มีอาการ ถือว่าเป็นระดับความดันปกติของร่างกายนั้นเอง จึงไม่จำเป็นต้องรักษา
หากมีอาการ แพทย์มักให้สารน้ำทางหลอดเลือดเพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำและเฝ้าดูอาการในโรงพยาบาล พร้อมตรวจหาสาเหตุร่วม
สำหรับผู้ที่ความดันต่ำแต่ไม่มีอาการ ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มกำลังสำรองของร่างกาย น้ำหนักตัวไม่ควรต่ำเกินไป (ตรวจดัชนีมวลกาย)
ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ และอาจรับประทานอาหารรสเค็มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
สรุป
ความดันโลหิตต่ำเป็นภาวะที่พบได้บ่อยและส่วนใหญ่ไม่อันตราย หากไม่มีอาการร่วมและแพทย์ตรวจไม่พบความผิดปกติ มักไม่จำเป็นต้องรักษา อย่างไรก็ตาม หากความดันลดลงอย่างรวดเร็วหรือมีอาการ เช่น เวียนศีรษะ หน้ามืด ใจสั่น หรือหมดสติ ควรรีบประเมินหาสาเหตุ เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคที่ต้องได้รับการดูแลทันที การรู้เท่าทันอาการ ปัจจัยเสี่ยง และวิธีดูแลตนเอง จะช่วยให้สามารถป้องกันภาวะความดันตกเฉียบพลันและลดโอกาสเกิดอันตรายได้
บรรณานุกรม
- "Low blood pressure (hypotension)." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Mayo Clinic (1 ธันวาคม 2568).
- "Hypotension." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Wikipedia (1 ธันวาคม 2568).
- "Low Blood Pressure - When Blood Pressure Is Too Low." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา Heart.org (1 ธันวาคม 2568).
- Richard E. Klabunde. 2020. "Hypotension - Introduction." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา cvphysiology.com (1 ธันวาคม 2568).