หมดสติ (Unconsciousness)

อาการหมดสติ หมายถึง อาการไม่รู้สึกตัวเหมือนนอนหลับ ปลุกไม่ตื่น หรือมีเพียงการขยับตัวหรือส่งเสียงครางเล็กน้อย ไม่สามารถตอบสนองได้เหมือนคนปกติ และมีอาการเช่นนี้นานกว่า 3 นาที

เมื่อพบผู้หมดสติ สิ่งสำคัญที่สุดคือประเมินการหายใจว่าปกติดีหรือไม่ ตรวจดูว่ามีการหยุดหายใจหรือมีเสียงครืดคราดในลำคอหรือไม่ หากพบเสียงดังกล่าวควรจัดท่าศีรษะผู้ป่วยโดยหันไปด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อให้ลิ้นไม่ตกไปอุดทางเดินหายใจ หรือเชยคางขึ้นเล็กน้อย จากนั้นตรวจชีพจรที่คอตามภาพ ว่าชีพจรยังเต้นเป็นปกติหรือไม่ แล้วจึงค่อยตรวจหาร่องรอยการบาดเจ็บบริเวณต่าง ๆ

ผู้ป่วยบางรายอาจพกบัตรสุขภาพหรือข้อมูลติดต่อญาติไว้ หากพบควรรีบประสานขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างเพื่อติดต่อญาติและเรียกรถพยาบาลทันที

หากผู้ป่วยหายใจช้ามาก หรือไม่หายใจแต่ยังคลำชีพจรได้ ให้กระตุ้นด้วยความเจ็บปวดเพื่อประเมินการตอบสนอง หากมีผู้รู้วิธีผายปอดควรช่วยเหลือทันที หากไม่มีใครทำเป็น ให้โทร 1669 หรือ 191 เพื่อรับคำแนะนำและขอความช่วยเหลือโดยเร็ว

สาเหตุของการหมดสติ

โดยทั่วไป สาเหตุแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง กลุ่มที่เกิดจากความผิดปกติของสารหรือสมดุลในเลือด และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจ

  1. กลุ่มที่มีรอยโรคที่สมอง เช่น
    • การบาดเจ็บ ทั้งอุบัติเหตุปัจจุบันหรือภายใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อาจทำให้เกิดเลือดออกในสมอง ฟกช้ำ หรือสมองบวม
    • โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน รวมถึงภาวะอุดตันชั่วคราว (TIA)
    • การติดเชื้อในสมอง
    • เนื้องอกในสมอง
    • โรคลมชัก

  2. กลุ่มที่เกิดจากการเสียสมดุลในเลือด เช่น
    • เมาสุราหรือพิษสุราเรื้อรัง
    • ทานยาเกินขนาด
    • ได้รับสารพิษ
    • เบาหวานที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงผิดปกติ
    • ภาวะน้ำตาลต่ำจากสาเหตุอื่น
    • ไตวายเรื้อรัง
    • ตับแข็งแล้วมีแอมโมเนียขึ้นสมอง
    • โรคทางต่อมไร้ท่ออื่น ๆ นอกจากเบาหวาน
    • เสียสมดุลน้ำและเกลือแร่
    • โรคปอดเรื้อรังที่มีคาร์บอนไดออกไซด์คั่ง
    • ภาวะขาดวิตามินบีอย่างรุนแรง
    • ภาวะช็อก (ความดันโลหิตต่ำ) จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น เลือดออกมาก ติดเชื้อในกระแสเลือด ถ่ายไม่หยุด
    • โรคเรื้อรังอื่น ๆ

  3. กลุ่มที่เกิดจากสภาพจิตใจ เช่น
    • โรคจิต
    • โรคซึมเศร้า
    • โรคฮิสทีเรีย
    • Hyperventilation syndrome


แนวทางการตรวจรักษา

ผู้ป่วยบางราย เช่นผู้ที่มีอาการจากลมชัก เมาสุรา Hyperventilation syndrome หรือ TIA อาจฟื้นตัวเมื่อถึงโรงพยาบาล แต่แพทย์ยังต้องตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ญาติหรือผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ควรแจ้งประวัติแก่แพทย์ทันทีเพื่อประกอบการวินิจฉัย

หากผู้ป่วยมีความผิดปกติของสัญญาณชีพ ทีมแพทย์จะทำการกู้ชีพเป็นอันดับแรก ในช่วงนี้ข้อมูลจากญาติสำคัญมาก เพราะโรคตับ โรคไต โรคปอด หรือโรคเรื้อรังต่าง ๆ ล้วนมีกลไกทำให้หมดสติแตกต่างกัน แพทย์ไม่สามารถรอผลตรวจหรือค้นประวัติเก่าได้ การได้รับข้อมูลเบื้องต้นจากญาติจะช่วยให้การกู้ชีพและการติดตามภาวะแทรกซ้อนทำได้แม่นยำขึ้น

หลังการกู้ชีพ หากพบความผิดปกติทางระบบประสาท ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ส่วนผู้ที่ไม่มีความผิดปกติชัดเจน จะได้รับการตรวจหาสาเหตุอื่นต่อไปตามความเหมาะสม

สรุป

อาการหมดสติเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องประเมินการหายใจและชีพจรอย่างเร่งด่วน พร้อมจัดท่าผู้ป่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง สาเหตุมีได้หลายกลุ่ม ทั้งจากโรคทางสมอง ความผิดปกติของสมดุลเลือด และปัจจัยทางจิตใจ การให้ข้อมูลแก่ทีมแพทย์โดยเร็วช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาที่ถูกต้องและลดภาวะแทรกซ้อน ผู้พบเหตุควรรีบขอความช่วยเหลือ โทร 1669 หรือ 191 และช่วยเหลือเท่าที่ปลอดภัยในเบื้องต้น